ดั๊ก ไลแมน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของ Edge of Tomorrow 2 อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้ดู?

ดั๊ก ไลแมน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของ Edge of Tomorrow 2 อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้ดู?

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณสิบปีก่อน หนังสือการ์ตูนที่มีชื่อว่า All You Need Is Kill ของอาจารย์ ฮิโรชิ ซากุระซากะ ได้ถูกดัดแปลงให้มาเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด ด้วยฝีมือผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน ร่วมกับนักเขียนบทอีกสามคน ปลุกปั้นให้มันออกมาเป็นภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟเรื่องเยี่ยมที่หลายคนชื่นชอบกันอย่าง Edge Of Tomorrow (2014) หรือ ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร

เรื่องราวการต่อสู้กับฝูงเอเลี่ยนต่างดาวของ ทอม ครูซ และ เอมิลี บลันท์ กลายมาเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไซไฟที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการสร้างภาคต่ออย่างล้นหลาม ประกอบกับการที่นักแสดงและทีมงานหลายคนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าพร้อมที่จะกลับมาทำหน้าที่เดิมในภาพยนตร์ภาคต่อมาตั้งแต่ปี 2015 หลายคนก็คาดการณ์กันไปแล้วว่า จะมีการสร้างภาคต่อขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาล่วงเลยมาเกินสิบปี นับตั้งแต่ที่ ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ก็ไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาเลยว่า ภาพยนตร์ภาคต่อได้อยู่ในกระบวนการสร้างเรียบร้อยแล้ว

 

 

แต่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งหมดนี้ ไลแมน ก็เป็นหนึ่งในคนที่ยังยืนยันอยู่เสมอว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากมากเลยทีเดียว ที่จะเขียนบทภาพยนตร์ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับภาคแรกได้ โดยเขาได้พูดถึงการทำงานในภาพยนตร์ภาคต่อนี้เอาไว้ในการให้สัมภาษณ์กับทาง โคลไลเดอร์

 

“ที่ผมจะสื่อก็คือ ในตอนนี้ เอมิลี บลันท์ และ ทอม ครูซ อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพนักแสดง ผมคงจะบ้าแน่ ๆ ถ้าไม่คิดจะหาวิธีการสร้างภาคต่อ ดังนั้นในตอนนี้ผมก็กำลังใช้เวลาจะทำมันให้ได้อยู่”

“ในทางกลับกัน เรื่องเกี่ยวกับทางเดินทางข้ามเวลาเป็นอะไรที่ยากทีเดียว ยาก ยากมากจริง ๆ ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือ สร้างหนังสักเรื่องหนึ่งที่มีการข้ามเวลา เพื่อจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า มนุษย์ไม่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้ เพราะว่ามันยากเกินไปที่จะเขียนองค์ที่สามของหนังที่เกี่ยวกับการข้ามเวลา ดังนั้นผมที่รู้อยู่แล้วว่ามนุษย์ไม่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้ แต่ก็ยังต้องพยายามเขียนมันออกมาให้ได้”

 

 

“ใช่ เป็นแบบนั้นเลย เหมือนกับระบบมันบอกให้ไปสร้างมันซะ และมันก็ไม่ได้สำคัญเลยว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะว่ามันเป็นหนังภาคต่อ และมันจะทำเงินได้พันล้านเหรียญ แต่มีอย่างหนึ่งก็คือ เพราะว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นที่นิยมมาก และผมก็คงจะไม่ทำอะไรแบบนั้น และ ทอม ก็คงจะไม่ทำมัน เอมิลี คงจะไม่ทำมัน เหมือนกับว่าเราให้ความสำคัญกับมันมาก ๆ คุณก็คงเข้าใจแหละ เรามีความภาคภูมิใจในผลงานของเรามากเกินไปที่จะทำอะไรง่าย ๆ”

 

หวังว่ามันจะไม่นานรอที่ ไลแมน จะเขียนบทภาพยนตร์ภาคต่อที่ลือกันว่าจะใช้ชื่อว่า Live Die Repeat and Repeat ออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่นักแสดงและทีมงานคนอื่น ๆ จะหมดความสนใจที่จะสานต่อเรื่องราวของแฟรนไชส์นี้

Live Die Repeat and Repeat ยังไม่มีเข้าฉายการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในตอนนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่าย ๆ เพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider