ประกาศวันฉายทางการของ Scream 7 พร้อมยืนยันการกลับมาของ นีฟ แคมป์เบลล์

ประกาศวันฉายทางการของ Scream 7 พร้อมยืนยันการกลับมาของ นีฟ แคมป์เบลล์

 

 

ถือว่าเป็นข่าวดีข่าวแรกในปีนี้ ของแฟรนไชส์ตำนานภาพยนตร์ไล่เชือดอย่าง Scream หรือ หวีดสุดขีด หลังจากที่ นีฟ แคมป์เบลล์ หนึ่งในนักแสดงนำ ได้ออกมาเปิดเผยวันฉายของ Scream 7 (2026) ผ่านทางบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ

Scream 7 ถูกวางกำหนดการฉายเอาไว้ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2026 ตามเวลาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็หมายถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2026 ตามเวลาของประเทศไทย โดยมันจะเป็นผลงานการกำกับของ เควิน วิลเลียมสัน นักเขียนบทคู่บุญที่มีส่วนร่วมในการเขียนบทในภาพยนตร์ หวีดสุดขีด มาตั้งแต่ภาคต้นฉบับ ร่วมกับการเขียนบทของ กาย บูซิก จากเรื่องราวของ เจมส์ แวนเดอร์บิลต์

 

 

ในปี 2023 ที่ผ่านมา แฟรนไชส์ หวีดสุดขีด ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาในกระบวนการสร้างมากมาย เริ่มต้นจากการถอนตัวของหนึ่งในนักแสดงนำ เมลิซา บาร์เรรา เนื่องจากปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางด้านความคิดเห็นทางการเมืองระหว่างนักแสดงชาวเม็กซิโกกับทางสตูดิโอ ตามมาด้วยนักแสดงนำอีกหนึ่งคนอย่าง เจนนา ออร์เทก้า ที่ตัดสินใจถอนตัวออกไปเนื่องจากปัญหาตารางการทำงานที่ไม่ลงตัว รวมไปถึงการถอนตัวของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ แลนดอน จนทำให้เริ่มมีการคาดการณ์กันแล้วว่า แฟรนไชส์ไล่เชือดที่มีอายุอานามเกือบสามสิบปี จะสิ้นสุดลงที่ภาคที่หก

 

 

จนกระทั่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้มีรายงานออกมาว่า เริ่มมีการติดต่อไปยัง นีฟ แคมป์เบลล์ ให้กลับมาสานต่อบทบาท ซิดนีย์ เพรสคอตต์ หลังจากที่เธอไม่ได้ปรากฏตัวใน Scream (2022) หรือ หวีดสุดขีด เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าตัวกับทางสตูดิโอได้ และก็ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า เธอจะกลับมารับบทนำในแฟรนไชส์นี้อีกครั้ง หลังจากปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ภาคต้นฉบับของปี 1996

อย่างไรก็ตาม จนถึงในตอนนี้ ก็ยังไม่ได้มีเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับ Scream 7 ออกมาแต่อย่างใด ซึ่งก็รวมไปถึงการกลับมาสานต่อบทบาทของ เกล เวเธอร์ส ของ คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ อีกหนึ่งในนักแสดงนำจากภาพยนตร์ภาคต้นฉบับที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา

Scream 7 มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2026

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Entertainment Weekly